น้ำมันเครื่องทำหน้าที่เป็นตัวหล่อลื่นเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการปนเปื้อนของอนุภาคโลหะ/คาร์บอนที่เกิดจากการเสียดสีและการเผาไหม้ และทำความสะอาดภายในเครื่องยนต์ ทำให้การเคลื่อนที่เป็นไปโดยไม่ติดขัด
1. การหล่อลื่น – ลดการสึกหรอของเครื่องยนต์
2. การระบายความร้อน – นำความร้อนที่เกิดจากการการเสียดสี
3. การป้องกัน – ป้องกันชิ้นส่วนไม่ให้เป็นสนิม
4. การล้างและการทำความสะอาด – ขจัดและชะล้างสิ่งเจือปนและสิ่งสะสม
น้ำมันพื้นฐาน (60-90%) |
สารเพิ่มคุณภาพ (10% - 40%) |
น้ำมันแร่ (SN) น้ำมันกึ่งสังเคราะห์* น้ำมันสังเคราะห์ผ่านกระบวนการ HC (HC)** น้ำมันสังเคราะห์ (PAO/Ester)
* อัตราการผสมน้ำมันพื้นฐานไม่ได้มีการกำหนดไว้ – ไม่มีบทนิยามทางกฎหมายที่บังคับใช้ ** ไม่มีบทนิยามทั่วไป – บางประเทศจะถือว่าเป็นน้ำมันสังเคราะห์ แต่ในบางประเทศจะถือว่าเป็นน้ำมันแร่ |
สารชะล้าง/ สารกระจายเขม่า สารต้านออกซิเดชัน EP/AW สารลดแรงเสียดทาน PPD สารเพิ่มดัชนีความหนืด สารป้องกันการเกิดฟอง สารป้องกันสนิม |
น้ำมันเครื่องประกอบด้วยน้ำมันพื้นฐาน 60-90% + สารเพิ่มคุณภาพ 10% - 40%
หากยึดตามน้ำมันดิบที่เป็นวัตถุดิบตั้งต้นแบบ “ผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ” เป็นหลัก สารชนิดนี้มีคุณภาพไม่สม่ำเสมอแต่จะประกอบด้วยสารประกอบไฮโดรคาร์บอนหลายพันชนิด
ความแตกต่างในด้านคุณภาพและองค์ประกอบนี้มีสาเหตุมาจากแหล่งกำเนิดของน้ำมันดิบ
ต้องผ่านการปรับปรุงคุณภาพก่อนจะนำไปใช้เป็นสารหล่อลื่น
น้ำมันหล่อลื่นพื้นฐานคือผลิตผลที่ได้จากกระบวนการกลั่นแยกหลายขั้นตอนที่ซับซ้อนและยาวนาน
สารเพิ่มคุณภาพต้องช่วยเสริมคุณสมบัติที่ดีและปรับปรุงข้อด้อยของสารหล่อลื่นให้เกิดสมดุล
การแบ่งกลุ่มน้ำมันพื้นฐานจะกำหนดตามมาตรฐาน API และ ATIEL
มักรวมเอาน้ำมันพื้นฐานประเภทต่างๆ ที่ใช้ในหนึ่งสูตร
API - Group |
การแบ่งประเภท |
ระดับความอิ่มตัว |
ปริมาณกำมะถัน |
ดัชนีความหนืด |
ต้นทุน |
Group I |
น้ำมันแร่ (สารสกัดโดยใช้ตัวทำละลาย) |
< 90% |
> 0.03% |
80 < VI < 120 ทั่วไป < 100 |
ต่ำ |
Group II |
น้ำมันแร่ (สารสกัดโดยใช้น้ำเป็นตัวทำละลาย) |
> 90% |
< 0.03% |
80 < VI < 120 ทั่วไป < 100 |
ต่ำ |
Group III |
น้ำมันแร่ (ไฮโดรแคร็ก) |
> 90% |
< 0.03% |
VI > 120 ทั่วไป 120 – 135 |
ปานกลาง |
Group IV |
น้ำมันสังเคราะห์ (PAO) |
--- |
0 |
VI > 120 ทั่วไป 120 – 150 |
สูง |
Group V |
น้ำมันสังเคราะห์ (ประกอบด้วย Ester เป็นหลัก) |
--- |
0 |
--- ทั่วไป 120 – 160 |
สูงมาก |
น้ำมันพื้นฐานส่งผลต่อสารหล่อลื่นในหลายรูปแบบ จึงจำเป็นต้องใส่สารเพิ่มคุณภาพด้วย
น้ำมันแร่ … น้ำมันกึ่งสังเคราะห์ … น้ำมันสังเคราะห์ … น้ำมันสังเคราะห์แท้…
บทนิยาม ความเข้าใจ และการใช้คำอธิบายเกี่ยวกับน้ำมันพื้นฐานที่กล่าวไปข้างต้นจะต่างกันไปในแต่ละประเทศ
ส่วนใหญ่มักเข้าใจว่าน้ำมันพื้นฐานคือตัวบ่งชี้คุณภาพ แต่อันที่จริงแล้วไม่ใช่ องค์ประกอบของน้ำมันพื้นฐานพร้อมทั้งเทคโนโลยีสารเพิ่มคุณภาพจึงจะเป็นตัวบ่งชี้ถึงสมรรถนะที่แท้จริง
ยกเว้นถ้าในระหว่างกระบวนการผลิต โมเลกุลได้ผ่านกระบวนการสังเคราะห์ “ที่แท้จริง” เท่านั้น จึงจะเรียกสารที่ได้ออกมาว่า น้ำมันสังเคราะห์
API-Group IV และ V -> PAO, PIB, Esters, PG ฯลฯ
ประเภทอื่น ซึ่งโมเลกุลในน้ำมันส่วนใหญ่ยังคงได้จากน้ำมันดิบโดยตรง ในแง่นี้จะเรียกว่าเป็นน้ำมันพื้นฐาน น้ำมันแร่
สรุป
(1) ความเข้าใจผิดๆ ในท้องตลาดว่าน้ำมันพื้นฐานเท่ากับคุณภาพ (ที่ถูกต้องคือ: คุณภาพจะขึ้นอยู่กับน้ำมันพื้นฐานและสารเพิ่มคุณภาพรวมกัน)
(2) การให้นิยามคุณภาพตามโปรไฟล์สมรรถนะ ไม่ใช่น้ำมันพื้นฐาน
(3) คำชี้แจงสำหรับความเข้าใจของตลาดที่มีต่อ “น้ำมันแร่”, “น้ำมันกึ่งสังเคราะห์”, “น้ำมันสังเคราะห์แท้”
API -Group |
Group I |
Group II |
Group III |
Group IV |
Group V |
Group I |
น้ำมันแร่ |
น้ำมันแร่ |
น้ำมันแร่* น้ำมันกึ่งสังเคราะห์* |
น้ำมันกึ่งสังเคราะห์ |
น้ำมันกึ่งสังเคราะห์ |
Group II |
น้ำมันแร่ |
น้ำมันแร่ |
น้ำมันแร่* น้ำมันกึ่งสังเคราะห์* |
น้ำมันกึ่งสังเคราะห์ |
น้ำมันกึ่งสังเคราะห์ |
Group III |
น้ำมันแร่* น้ำมันกึ่งสังเคราะห์* |
น้ำมันแร่* น้ำมันกึ่งสังเคราะห์* |
น้ำมันแร่* น้ำมันกึ่งสังเคราะห์* น้ำมันสังเคราะห์* |
น้ำมันกึ่งสังเคราะห์* น้ำมันสังเคราะห์* |
น้ำมันกึ่งสังเคราะห์* น้ำมันสังเคราะห์* |
Group IV |
น้ำมันกึ่งสังเคราะห์* |
น้ำมันกึ่งสังเคราะห์ |
น้ำมันกึ่งสังเคราะห์* น้ำมันสังเคราะห์* |
น้ำมันสังเคราะห์ |
น้ำมันสังเคราะห์ |
Group V |
น้ำมันกึ่งสังเคราะห์ |
น้ำมันกึ่งสังเคราะห์ |
น้ำมันกึ่งสังเคราะห์* น้ำมันสังเคราะห์* |
น้ำมันสังเคราะห์ |
น้ำมันสังเคราะห์ |
หมายเหตุ: มักรวมเอาน้ำมันพื้นฐานประเภทต่างๆ ที่ใช้ในหนึ่งสูตร
* การแบ่งประเภท/ การตั้งชื่อให้กับส่วนผสมน้ำมันพื้นฐานอาจมีช่วงที่ต่างกันไป ขึ้นอยู่กับระเบียบข้อบังคับในท้องถิ่นหรือภูมิภาค (ถ้ามี) ตัวอย่างเช่น การรวมของช่องที่ทำเครื่องหมายด้วยสีเหลือง จะไม่มีระเบียบข้อบังคับอย่างเป็นทางการ (ในเอเชีย)
วัตถุประสงค์ของสารเพิ่มคุณภาพ
แม้ว่าน้ำมันพื้นฐานที่ใช้จะมีคุณภาพสูงมากเพียงใด
สารเพิ่มคุณภาพก็ยังคงเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อให้สารหล่อลื่นมีคุณภาพตรงตามข้อกำหนดต่างๆ ของสารหล่อลื่นสมัยใหม่
หน้าที่ของสารเพิ่มคุณภาพ:
ปรับปรุงคุณสมบัติต่างๆ ของสารหล่อลื่นให้เป็นไปตามที่ต้องการ
กำจัดคุณสมบัติที่ไม่พึงประสงค์ของสารหล่อลื่น
เพิ่มคุณสมบัติใหม่ให้กับสารหล่อลื่น
อัตราการเติมสารเพิ่มคุณภาพโดยทั่วไปจะมีตั้งแต่ไม่กี่ส่วนต่อล้านส่วน (ppm) ไปจนถึง 30% และมากกว่า
สารเพิ่มคุณภาพบางประเภทจะทำปฏิกิริยาซึ่งกัน
ผลที่เสริมกัน
การเกิดตะกอนที่ไม่ละลาย
ผลที่ต้านกัน/การลดสมรรถนะ
*การเลือกสารเพิ่มคุณภาพจึงต้องทำอย่างระมัดระวัง
ตามหลักแล้วจะสามารถแบ่งสารเพิ่มคุณภาพออกได้เป็นสามประเภท:
ประเภท A: สารเพิ่มคุณภาพที่ช่วยปกป้องพื้นผิว
ประเภท B: สารเพิ่มคุณภาพที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับสารหล่อลื่น
ประเภท C: สารเพิ่มคุณภาพที่ช่วยปกป้องสารหล่อลื่น
ประเภท A: สารเพิ่มคุณภาพที่ช่วยปกป้องพื้นผิว
ชื่อ |
รหัส |
ผลที่ต้องการ |
สารชะล้าง/ สารกระจายเขม่า |
DD |
ทำให้พื้นผิวไม่มีสิ่งสะสม ทำให้อนุภาคที่ไม่ละลายกระจายตัวออกไป |
สารรับแรงกดสูง สารป้องกันการสึกหรอ |
EP/AW |
ลดการเสียดสีและการสึกหรอ และป้องกันการสึกหรอแบบรอยขีด |
สารลดแรงเสียดทาน |
FM |
ปรับปรุงระดับการเสียดสี (เพิ่มขึ้น/ลดลง) |
สารยับยั้งการกัดกร่อน/สนิม |
CI |
ป้องกันไม่ให้ชิ้นส่วนโลหะเกิดการกัดกร่อน |
ประเภท B: สารเพิ่มคุณภาพที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับสารหล่อลื่น
ชื่อ |
รหัส |
ผลที่ต้องการ |
สารเพิ่มดัชนีความหนืด |
VII |
ลดอัตราความหนืดที่เปลี่ยนไปตามอุณหภูมิ |
สารลดจุดไหลเท |
PPD |
ทำให้สารหล่อลื่นสามารถไหลได้เมื่ออยู่ในอุณหภูมิต่ำ |
สารปรับสภาพซีล |
-- |
ซีลที่พองออกได้คล้ายยาง |
สี |
-- |
การบ่งชี้สารหล่อลื่น |
ประเภท C: สารเพิ่มคุณภาพที่ช่วยปกป้องสารหล่อลื่น
ชื่อ |
รหัส |
ผลที่ต้องการ |
สารต้านออกซิเดชัน |
AO |
เพิ่มความคงตัวต่อปฏิกิริยาออกซิเดชัน |
สารป้องกันการเกิดฟอง |
AF |
ป้องกันการเกิดฟอง |
สรุป
เพื่อตอบสนองต่อความต้องการสารหล่อลื่นสมัยใหม่ที่ใช้เทคโนโลยีระดับสูง การใช้สารเพิ่มคุณภาพเฉพาะต่างๆ มากมายจึงเป็นสิ่งจำเป็น
สารเพิ่มคุณภาพต้องช่วยปรับปรุงคุณสมบัติให้ได้ตามที่ต้องการ และป้องกันผลกระทบที่ไม่พึงประสงค์ของสารหล่อลื่น
สารเพิ่มคุณภาพส่วนใหญ่จะเป็นสารลดแรงตึงผิว จึงจะทำงานบนพื้นผิวของส่วนที่มีการเสียดสีกัน สารเพิ่มคุณภาพบางชนิดอาจทำปฏิกิริยาซึ่งกัน (บางครั้งอาจเป็นผลที่เสริมกัน/ผลในทางลบ)
การเลือกสารเพิ่มคุณภาพจึงต้องทำอย่างระมัดระวัง ซึ่งหมายถึงการหาสิ่งที่เข้ากันได้ดีที่สุด
ข้อมูลจำเพาะ OEM = ข้อมูลจำเพาะพื้นฐาน + ข้อจำกัดที่เข้มงวดขึ้น + การทดสอบเป็นการภายใน + การทดลองภาคสนาม |
ข้อมูลจำเพาะพื้นฐาน •คุณสมบัติทางเคมี/ทางกายภาพ •ข้อกำหนดทางเทคนิค |
ตัวอย่าง:
|
ตัวอย่าง:
|
สถาบันปิโตรเลียมแห่งอเมริกา (American Petroleum Institute) จะแยกโหมดการใช้งานสำหรับเครื่องยนต์และระดับสมรรถนะ:
S (การจุดระเบิดด้วยประกายไฟ): เครื่องยนต์เบนซิน
C (การจุดระเบิดด้วยการอัด): เครื่องยนต์ดีเซล (HD)
ตัวอักษรตัวที่สองจะระบุถึงระดับสมรรถนะ
ตัวเลขสำหรับโหมด -2/-4 จังหวะ
รายการการทดสอบ | ผลการทดสอบ | การประเมินผล |
---|---|---|
การถ่วงน้ำหนักค่าคราบเขม่าคาร์บอนที่ลูกสูบ, ข้อดี |
สมรรถนะต่อเนื่องยาวนาน เสถียรต่อความร้อนและออกซิเดชันได้ดีขึ้น 13% รักษาความสะอาดของเครื่องยนต์โดยป้องกันไม่ให้เกิดสิ่งสะสมที่เป็นอันตราย |
|
สมรรถนะการจัดการกากตะกอนในเครื่องยนต์, ข้อดี |
ขับขี่นุ่มนวลขึ้น ควบคุมกากตะกอนได้ดีขึ้น 14.1% เพลิดเพลินกับการขับขี่ที่นุ่มนวลขึ้นพร้อมคุณสมบัติการป้องกันกากตะกอนและสิ่งสะสม |
|
ผลรวมดัชนีประสิทธิภาพการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง (FEI) % |
การขับขี่อย่างประหยัด ประสิทธิภาพการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงดีขึ้น 5.4 % ขับขี่ต่อเนื่องโดยใช้น้ำมันเชื้อเพลิงน้อยลง ช่วยประหยัดเงิน |
|
การสึกหรอเฉลี่ยของเพลาลูกเบี้ยว, µm |
ยืดอายุการใช้งานของเครื่องยนต์ ป้องกันการสึกหรอของเครื่องยนต์ได้ดีขึ้น 70%-84% ยืดอายุการใช้งานเครื่องยนต์ของคุณโดยชะลอการเกิดการสึกหรอ |
|
การสูญเสียน้ำหนักแบริ่ง, mg |
โปรดดูคู่มือรถของคุณสำหรับข้อมูลที่ถูกต้องเกี่ยวกับการใช้งานและการเปลี่ยนน้ำมันเครื่องตามรอบระยะเวลาที่แนะนำไว้ในคู่มือ
1) ตรวจสอบระดับน้ำมันเครื่องเพื่อตัดสินใจว่าต้องเติมน้ำมันเครื่องหรือไม่
ตรวจสอบระดับน้ำมันเครื่องโดยดึงก้านวัดน้ำมันเครื่องซึ่งปกติจะเป็นสีเหลืองหรือสีส้มและอยู่ใกล้กับเครื่องยนต์ออกมา
ดึงออกมาจนสุดเท่าที่จะทำได้ จากนั้นใส่กลับเข้าไปในช่อง รอสักครู่ก่อนจะดึงออกมาเพื่อดูระดับน้ำมันเครื่อง ที่ปลายก้านวัดจะมีเครื่องหมายแสดงถึงระดับต่ำสุดและสูงสุด ถ้าระดับน้ำมันเครื่องต่ำกว่าเครื่องหมายต่ำสุด ให้เติมน้ำมันเครื่องทันที
2) รถยนต์ส่วนใหญ่จะมีไฟเตือนบนแผงหน้าปัด
ถ้าไฟเตือนนี้ติดสว่างเป็นสีเหลืองหรือสีแดง คุณต้องหยุดรถทันทีที่ทำได้เพื่อตรวจสอบระดับน้ำมันเครื่องและเติมตามความจำเป็น
ชื่อผลิตภัณฑ์ |
โปรไฟล์สมรรถนะ |
หมายเหตุ |
PCMO (Passenger Car Motor Oil) |
||
DENSO Engine Oil Platinum 0W-20 |
API SN/ CF ILSAC GF-5 |
สามารถใช้ร่วมกับรุ่นที่เก่ากว่าได้: API SM/ SL/ SJ ฯลฯ ILSAC GF-4 ฯลฯ |
DENSO Engine Oil Platinum 5W-30 |
API SN/ CF ILSAC GF-5 |
สามารถใช้ร่วมกับรุ่นที่เก่ากว่าได้: API SM/ SL/ SJ ฯลฯ ILSAC GF-4 ฯลฯ |
DENSO Engine Oil Platinum 5W-40 |
API SN/ CF |
สามารถใช้ร่วมกับรุ่นที่เก่ากว่าได้: API SM/ SL/ SJ ฯลฯ |
DENSO Engine Oil Platinum 10W-30 |
API SN/ CF ILSAC GF-5 |
สามารถใช้ร่วมกับรุ่นที่เก่ากว่าได้: API SM/ SL/ SJ ฯลฯ ILSAC GF-4 ฯลฯ |
DENSO Engine Oil Platinum 10W-40 |
API SN/ CF |
สามารถใช้ร่วมกับรุ่นที่เก่ากว่าได้: API SM/ SL/ SJ ฯลฯ |
HDEO (Heavy Duty Engine Oil) |
||
DENSO Engine Oil Gold 15W-40 |
API CI-4/SL |
สามารถใช้ร่วมกับรุ่นที่เก่ากว่าได้: API CH-4/ CG-4/ CF-4 ฯลฯ API SJ/ SH/ SG/ SF ฯลฯ |
DENSO Engine Oil Gold 10W-30 |
API CI-4/SL |
สามารถใช้ร่วมกับรุ่นที่เก่ากว่าได้: API CH-4/ CG-4/ CF-4 ฯลฯ API SJ/ SH/ SG/ SF ฯลฯ |
DENSO Engine Oil Silver 15W-40 |
API CF-4 |
สามารถใช้ร่วมกับรุ่นที่เก่ากว่าได้: API CF/ CD/ CE/ CC ฯลฯ |
รุ่น |
ผลิตภัณฑ์ |
สำหรับรถประเภท |
ระดับ API |
SAE |
ACEA |
สมรรถนะ OEM |
การใช้งาน |
---|---|---|---|---|---|---|---|
แพลทินัม |
PCMO |
SN/CF GF-5 |
0W-20 |
ส่วนใหญ่ใช้สำหรับเครื่องยนต์เบนซิน (เครื่องยนต์ดีเซลจะขึ้นอยู่กับการใช้งาน) |
|||
PCMO |
SN/CF |
5W-40 |
A3/B4 |
MB 229.3 VW 502 00/505 00 |
|||
PCMO |
SN/CF GF-5 |
5W-30 |
|||||
PCMO |
SN/CF GF-5 |
10W-30 |
|||||
PCMO |
SN/CF |
10W-40 |
|||||
โกลด์ |
HDEO |
CI-4/SL |
10W-30 |
E7 |
|
ส่วนใหญ่ใช้สำหรับเครื่องยนต์ดีเซล (เครื่องยนต์เบนซินจะขึ้นอยู่กับการใช้งาน) |
|
HDEO |
CI-4/SL |
15W-40 |
E7 |
||||
ซิลเวอร์ |
HDEO |
CF-4 |
15W-40 |
สำหรับรถที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซล |
บรรจุภัณฑ์ขนาดเล็ก 1 ลิตร และ 4 ลิตร • รถยนต์นั่งส่วนบุคคล • สำหรับการขายปลีก • ความรู้เกี่ยวกับการบริโภค |
|
ถังกลมความจุสูงขนาด 205 ลิตร • เวิร์กช็อปของศูนย์บริการ • กลุ่มรถขนส่งเชิงพาณิชย์ |
|
ถังหูหิ้วขนาด 20 ลิตร • สำหรับงานบริการภาคสนาม, การใช้งานผสมหลายแบบ • สำหรับรถยนต์ที่มีความจุขนาดใหญ่ (7 ลิตร, 9 ลิตร ฯลฯ) |
ชื่อผลิตภัณฑ์ |
โปรไฟล์สมรรถนะ |
1 ลิตร |
4 ลิตร |
20 ลิตร |
205 ลิตร |
PCMO |
|||||
DENSO Engine Oil Platinum 0W-20 |
API SN/ CF ILSAC GF-5 |
O |
O |
|
|
DENSO Engine Oil Platinum 5W-30 |
API SN/ CF ILSAC GF-5 |
O |
O |
|
|
DENSO Engine Oil Platinum 5W-40 |
API SN/ CF |
O |
O |
|
|
DENSO Engine Oil Platinum 10W-30 |
API SN/ CF ILSAC GF-5 |
O |
O |
|
O |
DENSO Engine Oil Platinum 10W-40 |
API SN/ CF |
O |
O |
|
|
HDEO |
|||||
DENSO Engine Oil Gold 15W-40 |
API CI-4/SL |
|
|
|
O |
DENSO Engine Oil Gold 10W-30 |
API CI-4/SL |
O |
O |
|
O |
DENSO Engine Oil Silver 15W-40 |
API CF-4 |
O |
O |
O |
|
เสถียรต่อความร้อนและออกซิเดชันได้ดี
ป้องกันการสึกหรอได้ดี
ป้องกันกากตะกอนและสิ่งสะสมได้ดี
ความสิ้นเปลืองน้ำมันหล่อลื่นต่ำ
ประสิทธิภาพการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงดีขึ้น